ฟอกสีฟันขาวในคลินิก(cool light) 8,500 บาท
ฟอกสีฟันขาวที่บ้าน 4,500 บาท
ฟอกสีฟันที่คลินิคและบ้าน 13,000 บาท
ฟอกสีฟันไม่มีชีวิต ซี่ละ 3,000 - 4,000 บาท
ฟอกสีฟันด้วยเทคโนโลยี Cool Light
เป็นการใช้แสง Cool Light หรือ "แสงเย็น"
ซึ่งเป็นแสง LED ไปกระตุ้นประสิทธิภาพของน้ำยาฟอกสีฟัน
ให้สามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวฟัน
และทำปฏิกิริยาให้เม็ดสีบนเนื้อฟันเกิดการแตกตัวได้ดีขึ้น
ทำให้ฟันขาวสว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นผลทันใจ
โดยใช้เวลาเพียง 45-60 นาที
หมายเหตุ :
อัตราค่ารักษาอื่น ๆ ท่านสามารถโทรสอบถามได้จากทางคลินิก
อัตราค่ารักษาดังกล่าวเป็นการประเมินในเบื้องต้น
ค่าใช้จ่ายจริงทันตแพทย์จะเป็นผู้แจ้งให้ท่านทราบหลังจากทำการตรวจ ปรึกษาและวางแผนรักษาแล้ว
ราคานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ราคาครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจประเมินช่องปากโดยทันตแพทย์
- ค่าขัดทำความสะอาดฟันทั้งช่องปาก
- ค่าฟอกสีฟันด้วยระบบ Cool Light
- ค่าเคลือบฟลูออไรด์เพื่อเสริมสร้างเนื้อฟันและลดอาการเสียวฟัน
หมายเหตุ
ถ้าต้องเคลียร์ช่องปาก มีค่าบริการเพิ่มดังนี้
- ค่าขูดหินปูน (กรณีที่ผู้รับบริการต้องการหรือตามที่ทันตแพทย์พิจารณา) 600-1,200 บาท
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจนี้
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง รวมขั้นตอนการเตรียมผิวฟัน การปกป้องริมฝีปากและเหงือก การฟอกสีฟัน และการเคลือบฟลูออไรด์
- โดยลงน้ำยาและกระตุ้นด้วยแสง Cool Light จำนวน 3 รอบ รอบละ 15 นาที รวมเวลาฟอกสีฟัน 45 นาที
การเตรียมตัวก่อนใช้บริการ
- ควรดูแลความสะอาดช่องปากก่อนพบทันตแพทย์
- ควรนัดหมายเพื่อการตรวจประเมินเบื้องต้นโดยทันตแพทย์
การดูแลหลังใช้บริการ
- หลีกเลี่ยงอาหารเย็นจัด ร้อนจัด หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด
- หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง (หากต้องการดื่ม แนะนำใช้หลอดแทนการดื่มจากแก้ว)
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- แปรงฟันได้ตามปกติ หากเกิดอาการเสียวฟัน สามารถใช้ยาสีฟันกันเสียว และรับประทานยาแก้ปวดช่วยบรรเทาอาการได้
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หลังฟอกสีฟันอาจมีอาการเสียวฟันบ้างเช่นเดียวกับเทคโนโลยีฟอกสีฟันอื่นๆ สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาสีฟันผสมโพแทสเซียมไนเตรต และอาการจะหายไปเองภายใน 1–2 วัน
ข้อห้ามใช้สำหรับการฟอกสีฟัน
- ผู้ที่อายุน้อยกว่า 16 ปี เพราะอาจทำให้ระคายเคืองหรือเสียวในโพรงฟันได้
- ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ป่วยโรคเหงือกหรือใส่เคลือบฟัน
- ผู้ที่มีอาการแพ้สารเพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน
- ผู้ที่กำลังใส่เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น มีปัญหาเสียวฟัน เหงือกร่น หรือมีฟันที่ถูกอุด ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน
- ผู้ที่ฟันมีปัญหาหลายซี่ ผลการฟอกฟันอาจทำให้สีไม่สม่ำเสมอ ควรปรึกษาทันตแพทย์ถึงการรักษาด้วยวิธีอื่นแทน เช่น ใส่ครอบฟันหรือใช้วัสดุอุดสีเหมือนฟัน
ข้อมูลทั่วไป
การฟอกฟันขาวด้วยแสงเย็น (Cool Light) การฟอกสีฟันโดยใช้แสงเย็น ซึ่งเป็นแสง LED มากระตุ้นประสิทธิภาพของน้ำยาฟอกสีฟันให้สามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวฟัน และทำปฏิกิริยาให้เม็ดสีบนเนื้อฟันเกิดการแตกตัวได้ดีขึ้น
ขั้นตอน
- เทียบเฉดสีฟันก่อนเริ่มการฟอก
- แพทย์จะใส่เครื่องมือกันริมฝีปาก ใช้วัสดุทาคอฟันเพื่อป้องกันขอบเหงือกสัมผัสกับน้ำยาฟอกสี ก่อนทาเจลที่ตัวฟันและฉายแสงเร่งปฏิกิริยาเคมีให้ฟันขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว
- แพทย์อาจทาเจลและฉายแสงใหม่ซ้ำอีกรอบ เพื่อให้ฟันขาวขึ้นตามระดับเฉดสีที่ต้องการ
หมายเหตุ
- การฟอกสีฟันด้วยเทคโนโลยี Cool Light จะต้องทำโดยทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกทันตกรรมเท่านั้น โดยทันตแพทย์จะตรวจดูว่าไม่มีฟันผุหรือเหงือกร่นก่อนรับบริการ
- หากพบฟันผุ จะต้องอุดให้เรียบร้อย และวัสดุที่ใช้อุดจะต้องมีความทนทาน ไม่รั่วซึม จากนั้นทันตแพทย์จะทำความสะอาดช่องปากและขูดหินปูน เพื่อให้น้ำยาฟอกสีฟันกำจัดคราบได้เต็มที่
- ควรรักษาโพรงฟันเป็นหลุมหรือมีรากฟันโผล่ออกมาให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะสารฟอกฟันขาวอาจทำให้เสียวฟันได้
- สีของวัสดุอุดฟัน ครอบฟัน ฟันปลอม จะไม่ขาวขึ้นจากการฟอกสีฟัน จึงควรฟอกสีฟันให้เรียบร้อยก่อนอุดฟัน ครอบฟัน ทำสะพานฟัน หรือใส่ฟันปลอม
- การทำ 1 ครั้ง มีผลได้นาน 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและอาหารที่รับประทาน
- ระดับความขาวขึ้นของฟันขึ้นอยู่กับระดับสีฟันเดิมของแต่ละคน
- กรณีเพิ่งผ่าฟันคุดไปก็สามารถทำได้ หากนอนอ้าปาก กลืนน้ำลายได้โดยไม่เจ็บแผลนาน 1-2 ชั่วโมง